03 เมษายน 2553

บทความ & ข่าวสารด้านไอที

F5 เน็ตเวิร์ค เปิดตลาดใหม่ระดับ SME

F5 เน็ตเวิร์ค เปิดตลาดใหม่ระดับ SME ด้วยฮาร์ดแวร์แฟลตฟอร์ม ใหม่ล่าสุด บิ๊ก-ไอพี (Big- IP) 3600 c]t 1600 เพื่อรอฃรับการใช้งานของลุกค้าระดับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กได้อย่างครอบคลุมมากยิ่ฃขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน ตอบสนองการใช้งานด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ามาตราฐาน โดดเด่นในด้านระบบความปลอดภัยชั้นสูง และความสะดวกในการใช้งน

ที่มา : หนังสือ Computer Today ฉบับที่ 314 ปีที่ 18 ปักหลัง พ.ศ. 2551 หน้า 32



HP โชว์ HP iPAQ 912

HP เผยโฉม HP iPAQ 912 Business Messenger สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี 3G ชูประสิทธิภาพการทำงานนอกสถานที่สูงสุดให้แก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศ ด้วยตัวเครื่องสีดำ Piano-Black อย่างมีสไตส์ และยังโดดเด่นด้วยแป้นคีย์บอร์ดแบบ QWERTY พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.1 Profresional และเทคโนโลยีไร้สาย

ที่มา : หนังสือ Pantip GuiRe ประจำเดือน พฤศจิกายนพ.ศ. 2552 หน้าที่ 83



PDF X คืออะไร

PDF X เป็นเวอร์ชั่นภาคต่อของไฟล์ PDF ซึ่งตัวล่าสุดเป็นรุ่นที่ 9 แล้วไฟล์ของ PDF มีการแตกเป็นเวอร์ชั่นย่อยๆ อีกหลายมาตราฐาน โดยตัวอักษร ตัว X ที่มาต่อท้ายคำว่า Exchange ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถกำหนดคุณสมบัติและปรับแต่งโมดิฟายคุณลักษณะของเอกสาร PDF X ได้ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ที่มา : หนังสือ Computer Today ฉบับที่ 334 ปีที่ 18 พ.ศ. 2551 หน้าที่ 20



บอร์แบนด์ 100 Mbsp. แค่คืบ

แม้กำหนดการเข้าถึงอินเตอรืเน็ตความเร็วสูง (บอร์ดแบนด์ 100 Mbsp.)ให้เข้าถึงครอบครัวทุกๆพื้นที่ แต่เท่าที่สังเกตุดู พลเมืองหรือผู้ใช้อินเตอร์เน็ต จะเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้อย่างรวเร็วกว่าการโฆษณา โดยเชื่อกันว่าอินเตอร์เน็ตบอรืดแบนด์ 100 Mbsp. จะสามารถใช้กันอย่างทั่วถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า ได้ทั่วประเทศ โดยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ Download หลากหลายขนาดหรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่จะสามารถ Download ง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที โดยเจาะจงลูกค้าองค์กรเป็นลำดับ

ที่มา : หนังสือ Memmory Today.com ฉบับที่ 15 ปีที่ 10 พ.ศ. 2553 หน้า 15



SAAG HT-2

SAAG HT-2 Home Studio Collection เป็นผลิตภัณฑ์ จาก SAAG ผู้นำด้านเครื่องเสียงของไทยที่มีโรงงานผลิตอยู่นประเทศไทย ที่มีมาตราบาน ISO:9001-2000 เป็น new Desing ออกแบบเพื่อก้าวผ่านรูปลักษณ์เครื่องเสียงแห่ฃอนาคต SAAG HT-2 สามารถให้ระบบเสียงในรูปแบบ 2.1 Chanel พร้อมกำลังขับ 1800 W. โดยมีดอกลำโพง Subwoofer ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งให้เสียงเบสแน่นและทรงพลัง ส่วนลำโพงหน้า ขนาด 3 นิ้ว ก็ช่วยให้เสียงใสชัดเจน ครบทุกรายละเอียดเสียง

ที่มา : หนังสือ Computer Today ฉบับที่ 378 ปีที่ 19 ปักหลัง พ.ศ. 2553 หน้า 26



Compro Network Camera IP70

สำหรับ ip70 เป็นกล้อง IP Camera ที่มีออฟชั่นมาให้เยอะครบเครื่องที่เดียว ตรงตามความต้องการของผ฿ใช้งาน ที่สามารถปรับแต่งได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แถมยังสามารถบันทึกลงเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย และในอนาคตหากต้องการติดตั้งสัญญษณกันขโมย เพิ่มเติมสามารถต่อยอดเพื่อใมห้กล้องสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้เลย

ที่มา : หนังสือ Computer Today ฉบับที่ 378 ปีที่ 19 ปักหลัง พ.ศ. 2553 หน้า 29



SIMADO : GFX11

Simado : gfx11 เป็นอุปกรณ์โทรสัพท์แบบเคลื่อนที่ประจำ ขนาดช่องสัญญษณซึ่งสามารถนำไปเชื่อมต่อกับโทรสัพท์พื้นฐานหรือตู้สาขาเพื่อโทรออกในอัตราประหยัดโดยใช้อัตราโทรออกตามโปรโมชั่นของระบบโทรสัพท์เคลื่อนที่ ที่เราเลือกใช้ และยังสามารถใช้บริการการโทรทางไกลระหว่างประเทศในอัตราประหยัดได้ด้วย

ที่มา : หนังสือ Micro computer พ.ศ. 2553 หน้า 40



Sn0108 / SN0116 Serial Over the Net

เป็นตัวควบคุมอุปกรณ์ Serial / Sevver 8/16 เครือข่ายผ่านระบบ LAN ระบบ Internet ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยมีคุณสมบัติและความสามารถดังต่อไป
- ควบคุมได้พร้อมกันได้ทุกอุปกรณ์
- ใช้งานจาก Brower / Telnet / SSH
- ระบบพอร์ทที่ต้องการให้ User ใช้งานได้
- Hardware ถูกออกแบบให้ทำงานพลางตัวไม่จึงขัดจังหวะการทำงาน
- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของผู้ใช้
- ใช้ Serial Post ไว้โดยผ่าน Virtvat

ที่มา : หนังสือ Micro computer ฉบับที่ 296 พ.ศ.2553 หน้า 10

02 เมษายน 2553

ค้นคว้าวารสาร & Internet

เน้นสร้างประสบการณ์สู่ลูกค้า ชูคุณสมบัติลงตัว ใช้งานง่าย ในราคาที่สัมผัสได้ ตั้งเป้าโกยยอดขายไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นเครื่อง จ่อลงตลาดพร้อมกันทั้งยุโรปและเอเชีย...

HTC Smart เปิดมิติใหม่คอนซูมเมอร์สมาร์ทโฟน




เมื่อเร็วๆ นี้ นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชทีซี เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัว HTC Smart สมาร์ทโฟนอัจฉริยะภายใต้คุณสมบัติที่ใช้งานง่ายในราคาที่สัมผัสได้ พร้อมวางจำหน่ายช่วงเดือนเม.ย.ทั้งในยุโรปและเอเชีย โดย HTCSmart รวมประสบการณ์การใช้งานไว้ภายใต้ HTC Sense ด้วยแนวคิด 3 ส่วนหลัก คือ เปลี่ยนมือถือให้เป็นตัวคุณ(make it Mine) สานสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด (Stay Close) และค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ (Discover the Unexpected) ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมตามความต้องการ ด้วยระบบปฎิบัติการบรูว์โมบายแพลตฟอร์มจากควอลคอมม์


บริษัทฯ ตั้งเป้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าวไว้ที่ 20,000 เครื่อง ถือเป็นสินค้ารุ่นแรกในการทำตลาดกลุ่มแมสช่วงวัยรุ่นอายุ 15-40 ปี ปัจจุบัน ผู้ใช้ส่วนมากนิยมหน้าจอระบบสัมผัสมากขึ้น เนื่องจากราคาเฉลี่ยและฟีเจอร์ปรับลดลง บริษัทฯ จึงเน้นขยายการรับรู้สู่ตลาดและจัดกิจกรรมโรดโชว์ โดยเฉพาะหัวเมืองต่างจังหวัด อาทิ อยุธยา เชียงใหม่ ขอนแก่น ฯลฯ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ HTC Smart รุ่นล่าสุด มีให้เลือก 3 สี คือ ดำ ชมพู และขาว ในราคา 6,750 บาท.


เครื่องสแกนหนังสือที่เร็วที่สุดในโลก!!!

สองปีก่อนมีการพัฒนาเครื่องสแกนหนังสือรุ่น Digitizing Line DL 3000 ที่สามารถสแกนหน้าหนังสือทั้งเล่มให้กลายป็นไฟล์ดิจิตอลได้อย่างรวดเร็วที่ ประมาณ 3,000 หน้าต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 50 หน้าต่อนาที โดยเจ้าเครื่องที่ว่านี้มีราคาประมาณ 250,000 เหรียญฯ (ประมาณ 8.1 ล้านบาท) นอกจากจะมีราคาแพงสูงแล้ว ขนาดของตัวเครื่องยังใหญ่เท่าๆ กับเตียงนอนคิงส์ไซส์ 4 เตียงมาต่อกันเสียอีก
ล่าสุด มาซาโตชิ อิชิกาว่า ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาเครื่องสแกนหนังสือความเร็วสูงที่สามารถสแกนหนังสือทั้งเล่มไปเป็น ไฟล์ดิจิตอลด้วยการพลิกหน้าหนังสือที่ความเร็ว 200 หน้าต่อนาทีได้ นอกจากนี้ตัวเครื่องสแกนหนังสือของอิชิกาว่ายังมีขนาดเล็กเท่าๆ กับโต๊ะทำงานในห้องวิจัยเท่านั้น แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือ เราสามารถย่อเทคโนโลยีดังกล่าวให้เล็กลงจนสามารถฝังเข้าไปในมือถือได้อีก ด้วย





ความลับของสแกนเนอร์หนังสือความเร็วสูงก็คือ เซ็นเซอร์ 1280×1024 พิกเซลที่สามารถบันทึกภาพด้วยความเร็ว 500 เฟรมต่อวินาที โดยขั้นแรกจับภาพตัวหนังสือ และไดอะแกรมต่างๆ บนหน้ากระดาษ จากนั้นจับภาพแสงเลเซอร์ที่ยิงขนานแต่ละบรรทัดในหน้าหนังสือ เพื่อให้ซอฟต์แวร์คำนวณตำแหน่ง และขนาดที่ถูกต้องของหน้าหนังสือที่เอียงอยู่ขณะสแกนด้วยเทคนิคแปลงข้อมูล ภาพแบบ 3D (เนื่องจากการสแกนเกิดขึ้นขณะที่หน้าหนังสือกำลังพลิกผ่านไปยังรวดเร็ว) ให้เป็นหน้าหนังสือที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามมุมทีสแกน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบการทำงานยังต้องใช้มนุษย์ช่วยในการพลิกหน้าหนังสือ ดังนั้นผลลัพธ์ทีได้จะยังไม่สมบูรณ์ 100% ทุกหน้า เนื่องจากอาจมีบางหน้าติดกันไป แต่ทำได้ขนาดนี้ก็รู้สึกทึ่งในไอเดีย และผลลัพธ์ทีได้แล้ว

SSD คืออะไร

SSD คืออะไร กันแน่หลายคนคงสงสัย วันนี้เราจะมาตอบคำถามกัน

Solid State Disk หรือ SSD คือ หน่วยความจำในรูปแบบ Flash memory ชนิดหนึ่ง โดยเจ้าแรกคือ Samsung
SSD สามารถทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์หลายเท่า กินไฟค่อยข้างที่จำต่ำมาก เนื่องจากใช้เทคโนโลยี Flash เป็นเทคโนโลยี
เดียวกับที่หลายคนเรียกว่า Flash Disk นั้นเอง


ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันง่ายๆ ก็เหมือนกับ Flash Disk ในต่อในช่องของ SATA หรือ PATA เพื่อใช้เป็นหน่วยความจำหลักแทน harddisk
นั้นแหละครับ ซึ่งสามารถดูข้อดีของเจ้า SSD นี้ได้เลย

ข้อดีของ SSD
1. สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า harddisk ปกติหลายเท่า
2. กินไฟฟ้าน้อยกว่า harddisk หลายเท่า ทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้มาก
3. เสียงเงียบ เพราะไม่มีส่วนใดของ SSD เคลื่อนไหว
4. ทนการใช้งานได้ดีมาก เนื่องจากไม่มีหัวอ่านข้อมูลเหมือน harddisk

SSD นั้นยังถูกแยกเป็นสองชนิดคือ
1. Multi-Level Cell (MLC)
- จะเป็นการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ 2 bits : 1 Cell
2. Single-Level Cell (SLC)
- จะเป็นการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ 1 bits : 1 Cell

ความแตกต่างระหว่าง MLC , SLC
โดย MLC นั้นจะมีความจุหรือพื้นที่ใช้งานมากกว่า SLC แต่นั้่นจะมีความเร็วกว่า


TCP/IP โปรแกรมคำสั่ง cmd

TCP/IP
โปรแกรมคำสั่ง cmd

การเรียกใช้โปรแกรม ipconfig

1.เลื่อน Cursor Mouse ไปที่ Icons Start แล้วคลิกที่ RUN
2.พิมพ์คำสั่ง cmd แล้วกด OK
3.พิมพ์ ipconfig แล้วกด Enter

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป



4. พิมพ์คำว่า /all ต่อท้ายคำสั่ง ipconfig

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป




การเรียกใช้โปรแกรมคำสั่ง Ping
1.ปุ่ม Start > RUN > พิมพ์คำสั่ง cmd แล้วกด ok
2.เมื่อเข้าสู่ DOS Prompt แล้วพิมพ์คำสั่ง Ping แล้วตามด้วยหมายเลข ip เครื่องที่เราใช้งาน

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป



****เมื่อเพิ่มคำสั่ง -t ต่อท้ายคำสั่ง จะเป็นการแสดงผลแบบไม่สิ้นสุด

การเรียกใช้คำสั่ง arp

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป



การเรียกใช้คำสั่ง netstat

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป



การเรียกใช้คำสั่ง tracert

จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป

25 กุมภาพันธ์ 2553

★☆ ความหมายของ topology

โทโปโลยีคือลักษณะทางกายภาพ (ภายนอก) ของระบบเครือข่าย ซึ่งหมายถึง ลักษณะของการเชื่อมโยงสายสื่อสารเข้ากับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ภายในเครือข่ายด้วยกันนั่นเอง โทโปโลยีของเครือข่าย LAN แต่ละแบบมีความเหมาะสมในการใช้งาน แตกต่างกันออกไป การนำไปใช้จึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องทำการศึกษาลักษณะและคุณสมบัติ ข้อดีและข้อเสียของโทโปโลยีแต่ละแบบ เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบพิจารณาเครือข่าย ให้เหมาะสมกับการใช้งาน รูปแบบของโทโปโลยี ของเครือข่ายหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้

1.โทโปโลยีแบบบัส (BUS)
เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกเชื่อมต่อกันโดยผ่ายสายสัญญาณแกนหลัก ที่เรียกว่า BUS หรือ แบ็คโบน (Backbone) คือ สายรับส่งสัญญาณข้อมูลหลัก ใช้เป็นทางเดินข้อมูลของทุกเครื่องภายในระบบเครือข่าย และจะมีสายแยกย่อยออกไปในแต่ละจุด เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่าโหนด (Node) ข้อมูลจากโหนดผู้ส่งจะถูกส่งเข้าสู่สายบัสในรูปของแพ็กเกจ ซึ่งแต่ละแพ็กเกจจะประกอบไปด้วยข้อมูลของผู้ส่ง, ผู้รับ และข้อมูลที่จะส่ง การสื่อสารภายในสายบัสจะเป็นแบบ 2 ทิศทางแยกไปยังปลายทั้ง

2 ด้านของ บัส โดยตรงปลายทั้ง 2 ด้านของบัส จะมีเทอร์มิเนเตอร์ (Terminator) ทำหน้าที่ลบล้างสัญญาณที่ส่งมาถึง เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณข้อมูลนั้นสะท้อนกลับ เข้ามายังบัสอีก เพื่อเป็นการป้องกันการชนกันของข้อมูลอื่น ๆ ที่เดินทางอยู่บนบัสในขณะนั้น
สัญญาณข้อมูลจากโหนดผู้ส่งเมื่อเข้าสู่บัส ข้อมูลจะไหลผ่านไปยังปลายทั้ง 2 ด้านของบัส แต่ละโหนดที่เชื่อมต่อเข้ากับบัส จะคอยตรวจดูว่า ตำแหน่งปลายทางที่มากับแพ็กเกจข้อมูลนั้นตรงกับตำแหน่งของตนหรือไม่ ถ้าตรง ก็จะรับข้อมูลนั้นเข้ามาสู่โหนด ตน แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จะปล่อยให้สัญญาณข้อมูลนั้นผ่านไป จะเห็นว่าทุก ๆ โหนดภายในเครือข่ายแบบ BUS นั้นสามารถรับรู้สัญญาณข้อมูลได้ แต่จะมีเพียงโหนดปลายทางเพียงโหนดเดียวเท่านั้นที่จะรับข้อมูลนั้นไปได้

ข้อดี
- ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางสายสัญญาณมากนัก สามารถขยายระบบได้ง่าย เสียค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งถือว่าระบบบัสนี้เป็นแบบโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุดมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุผลอย่างหนึ่งก็คือสามารถติดตั้งระบบ ดูแลรักษา และติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคที่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก

ข้อเสีย
- อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เนื่องจากทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ ต่อยู่บนสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ดังนั้นหากมี สัญญาณขาดที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็จะทำให้เครื่องบางเครื่อง หรือทั้งหมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปด้วย

- การตรวจหาโหนดเสีย ทำได้ยาก เนื่องจากขณะใดขณะหนึ่ง จะมีคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ที่สามารถส่งข้อความ ออกมาบนสายสัญญาณ ดังนั้นถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ อาจทำให้เกิดการคับคั่งของเน็ตเวิร์ค ซึ่งจะทำให้ระบบช้าลงได้



2.โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)
เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทั้งเครื่องที่เป็นผู้ให้บริการ( Server) และ เครื่องที่เป็นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ข้อมูลข่าวสารที่ส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ในเครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีจุดปลายหรือเทอร์มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือแต่ละเครื่อง จะมีรีพีตเตอร์ (Repeater) ประจำแต่ละเครื่อง 1 ตัว ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นต่อการติดต่อสื่อสารเข้าในส่วนหัวของแพ็กเกจที่ส่ง และตรวจสอบข้อมูลจากส่วนหัวของ Packet ที่ส่งมาถึง ว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยข้อมูลนั้นไปยัง Repeater ของเครื่องถัดไป

ข้อดี
- ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลาย ๆ เครื่องพร้อม ๆ กัน โดยกำหนดตำแหน่งปลายทางเหล่านั้นลงในส่วนหัวของแพ็กเกจข้อมูล Repeaterของแต่ละเครื่องจะทำการตรวจสอบเองว่า ข้อมูลที่ส่งมาให้นั้น เป็นตนเองหรือไม่
- การส่งผ่านข้อมูลในเครือข่ายแบบ RING จะเป็นไปในทิศทางเดียวจากเครื่องสู่เครื่อง จึงไม่มีการชนกันของสัญญาณ ข้อมูลที่ส่งออกไป
- คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์กมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน

ข้อเสีย
- ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหาย ข้อมูลจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้ และจะทำให้เครือข่ายทั้งเครือข่าย หยุดชะงักได้
- ขณะที่ข้อมูลถูกส่งผ่านแต่ละเครื่อง เวลาส่วนหนึ่งจะสูญเสียไปกับการที่ทุก ๆ Repeater จะต้องทำการตรวจสอบตำแหน่งปลายทางของข้อมูลนั้น ๆ ทุก ข้อมูลที่ส่งผ่านมาถึง

3.โทโปโลยีแบบดาว (STAR)
เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB) หรือเครื่อง ๆ หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาญที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย และควบคุมเส้นทางการสื่อสาร ทั้งหมด เมื่อมีเครื่องที่ต้องการส่งข้อมูลไปยังเครื่องอื่น ๆ ที่ต้องการในเครือข่าย เครื่องนั้นก็จะต้องส่งข้อมูลมายัง HUB หรือเครื่องศูนย์กลางก่อน แล้ว HUB ก็จะทำหน้าที่กระจายข้อมูลนั้นไปในเครือข่ายต่อไป



ข้อดี
- การติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำ ได้ง่าย หากมีเครื่องใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบได้ง่าย และศูนย์ กลางสามารถตัดเครื่องที่เสียหายนั้นออกจากการสื่อสาร ในเครือข่ายได้เลย โดยไม่มีผลกระทบกับระบบเครือข่าย



ข้อเสีย
- เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น เครื่องศูนย์กลาง หรือตัว HUB เอง และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในเครื่องอื่น ๆ ทุกเครื่อง การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้ง จะต้องเกี่ยวเนื่องกับเครื่องอื่นๆ ทั้งระบบ

4.โทโปโลยีแบบ Hybrid
เป็นรูปแบบใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกันของโทโปโลยีแบบ STAR , BUS , RING เข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการลดข้อเสียของรูปแบบที่กล่าวมา และเพิ่มข้อดี ขึ้นมา มักจะนำมาใช้กับระบบ WAN (Wide Area Network) มาก ซึ่งการเชื่อมต่อกันของแต่ละรูปแบบนั้น ต้องใช้ตัวเชื่อมสัญญาญเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตัวนั้นก็คือ Router เป็นตัวเชื่อมการติดต่อกัน

5.โทโปโลยีแบบ MESH
เป็นรูปแบบที่ถือว่า สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เครื่อง ไปเชื่อมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย คือเครื่องทุกเครื่องในระบบเครือข่ายนี้ ต้องมีสายไปเชื่อมกับทุก ๆ เครื่อง ระบบนี้ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง จึงมีค่อยมีผู้นิยมมากนัก

★☆ ความหมายของ protocal

โปรโตคอล ( Protocol) หมายถึง ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีข้อดี ข้อเสีย และใช้ในโอกาสหรือสถานการณ์แตกต่างกันไป คล้ายๆ กับภาษามนุษย์ที่มีทั้งภาษาไทย จีน ฝรั่ง หรือภาษาใบ้ ภาษามือ หรือจะใช้วิธียักคิ้วหลิ่วตาเพื่อส่งสัญญาณก็จัดเป็นภาษาได้เหมือนกัน ซึ่งจะสื่อสารกันรู้เรื่องได้จะต้องใช้ภาษาเดียวกัน ในบางกรณีถ้าคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องสื่อสารกันคนละภาษากันและต้องการนำมาเชื่อมต่อกัน จะต้องมีตัวกลางในการแปลงโปรโตคอลกลับไปกลับมาซึ่งนิยมเรียกว่า Gateway ถ้าเทียบกับภาษามนุษย์ก็คือ ล่าม ซึ่งมีอยู่ทั้งที่เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์แยกต่างหากสำหรับทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ หรือาจะเป็นโปรแกรมหรือไดร์ฟเวอร์ที่สามารถติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ ได้เลย
การที่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจะส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งได้นั้น จะต้องอาศัยกลไกหลายๆ อย่างร่วมกันทำงานต่างหน้าที่กัน และเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายเข้าด้วยกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การเชื่อมต่อมีความแตกต่างระหว่างระบบและอุปกรณ์หรือเป็นผู้ผลิตคนละรายกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การสร้างเครือข่ายเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากขาดมาตรฐานกลางที่จำเป็นในการเชื่อมต่อ จึงได้เกิดหน่วยงานกำหนดมาตรฐานสากลขึ้นคือ International Standards Organization และทำการกำหนดโครงสร้างทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในการสื่อสารข้อมูลและเป็นระบบเปิด เพื่อให้ผู้ผลิตต่างๆ สามารถแยกผลิตในส่วนที่ตัวเองถนัด แต่สามารถนำไปใช้ร่วมกันได้ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สมัยใหม่จะถูกออกแบบให้มีโครงสร้างทีแน่นอน และเพื่อเป็นการลดความซับซ้อน ระบบเครือข่ายส่วนมากจึงแยกการทำงานออกเป็นชั้นๆ ( layer) โดยกำหนดหน้าที่ในแต่ละชั้นไว้อย่างชัดเจน แบบจำลองสำหรับอ้างอิงแบบ OSI (Open System Interconnection Reference Model) หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า OSI Reference Model ของ ISO เป็นแบบจำลองที่ถูกเสนอและพัฒนาโดยองค์กร International Standard Organization (ISO) โดยจะบรรยายถึงโครงสร้างของสถาปัตยกรรมเครือข่ายในอุดมคติ ซึ่งระบบเครือข่ายที่เป็นไปตามสถาปัตยกรรมนี้จะเป็นระบบเครือข่ายแบบเปิด และอุปกรณ์ทางเครือข่ายจะสามารถติดต่อกันได้โดยไม่ขึ้นกับว่าเป็นอุปกรณ์ของผู้ขายรายใด

★☆ องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล

█ █ องค์ประกอบพื้นฐานของระบบสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งข้อมูล (Sender)
ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ต้นทางจะต้องจัดเตรียมนำเข้าสู่อุปกรณ์สำหรับส่งข้อมูล ซึ่งได้แก่เครื่องพิมพ์ หรืออุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถส่งข้อมูลนั้นได้ก่อน

2. ผู้รับหรืออุปกรณ์รับข้อมูล (Receiver)
ข้อมูลที่ถูกส่งจากอุปกรณ์ส่งข้อมูลต้นทาง เมื่อไปถึงปลายทางก็จะมีอุปกรณ์สำหรับรับข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม ฯลฯ

3. โปรโตคอล (Protocol)
โปรโตคอล คือ กฎระเบียบ หรือวิธีการใช้เป็นข้อกำหนดสำหรับการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจกันได้ ซึ่งมีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น TCP/IP, X.25, SDLC เป็นต้น

4. ซอฟต์แวร์ (Software)
การส่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีโปรแกรมสำหรับดำเนินการ และควบคุมการส่งข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ ได้แก่ Novell's NetWare UNIX Windows NT ฯลฯ

5. ข่าวสาร (Message)
เป็นรายละเอียดซึ่งอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะส่งผ่านระบบการสื่อสาร ซึ่งมีหลายรูปแบบดังนี้
5.1 ข้อมูล (Data) เป็นรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งถูกสร้างและจัดเก็บด้วยคอมพิวเตอร์ มีรูปแบบแน่นอน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า เป็นต้น ข้อมูลสามารถนับจำนวนได้และส่งผ่านระบบสื่อสารได้เร็ว

5.2 ข้อความ (Text) อยู่ในรูปของเอกสารหรือตัวอักขระ ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ชัดเจนนับจำนวนได้คอนข้างยาก และมีความสามารถในการส่งปานกลาง

5.3 รูปภาพ (Image) เป็นข่าวสารที่อยู่ในรูปของภาพกราฟิกแบบต่าง ๆ ได้แก่ รูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพวิดีโอ ซึ่งข้อมูลชนิดนี้จะต้องอาศัยสื่อสำหรับเก็บและใช้หน่วยความจำเป็นจำนวนมาก

5.4 เสียง (Voice) อยู่ในรูปของเสียงพูด เสียงดนตรี หรือเสียงอื่น ๆ ข้อมูลชนิดนี้จะกระจัดกระจาย ไม่สามารถวัดขนาดที่แน่นอนได้ การส่งจะทำได้ด้วยความเร็ว ค่อนข้างต่ำ

6. ตัวกลาง (Medium)
เป็นตัวกลางหรือสื่อกลางที่ทำหน้าที่นำข่าวสารในรูปแบบต่าง ๆ จากผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งต้นทางไปยังผู้รับหรืออุปกรณ์รับปลายทาง ซึ่งมีหลายรูปแบบได้แก่ สายไป ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออฟติก ตัวกลางอาจจะอยู่ในรูปของคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นดาวเทียม หรือคลื่นวิทยุ เป็นต้น

★☆ ความหมายเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์

█ █ เครือข่ายคอมพิวเตอร์

หมายถึง การนำคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ข้างเคียงต่าง ๆ มาเชื่อมต่อถึงกันโดยใช้สายเคเบิ้ลเป็นสื่อกลางในการ แลกเปลี่ยนชุดข้อมูล ชุดคำสั่ง และข่าวสารต่าง ๆ ระหว่างคอมพิวเตอร์ กับ คอมพิวเตอร์และระหว่างคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ข้างเคียง
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้
สิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียู แบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทุกคนได้ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่าย
จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้นจากเดิม

★☆ สรุปความหมายของการสื่อสารข้อมูล

█ █ สรุปการสื่อสารข้อมูล

การสื่อสาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดข้อมูลโดยผ่านช่องทางหรือสื่อระหว่างผู้ส่งและผู้รับ เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน การสื่อสารข้อมูล หมายถึง กระบวนการหรือวิธีการถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผู้ส่งและผู้รับที่อยู่ห่างไกลกันด้วยระบบการสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunication) เป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูลกระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้รับและผู้ส่งโดยผ่าน ช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับ เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน

★☆ ความหมายของการสื่อสารข้อมูล

█ █ ความหมายของการสื่อสารข้อมูล (Communication)

เกิดจากคำสองคำ คือ การสื่อสาร (Communication)ซึ่งหมายถึง การส่งเนื้อหาจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง และคำว่า ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ถือหรือยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริงสำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือการคำนวณ ซึ่งในที่นี้เราจะหมายถึงข้อมูลที่เกิดขึ้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปตัวเลข 0 หรือ 1 ต่อเนื่องกันไป ซึ่งเป็นค่าที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ นั่นคือ การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การส่งเนื้อหาที่อยู่ในรูปตัวเลขฐานสองที่เกิดจากอุปกรณ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการติดต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนแบ่งปันการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

█ █ การสื่อสารข้อมูล (Data Communications)

หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน วิธีการส่งข้อมูลนี้ จะแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณ หรือรหัสเสียก่อนแล้วจึงส่งไปยังผู้รับ และเมื่อถึงปลายทางหรือผู้รับก็จะต้องมีการแปลงสัญญาณนั้นกลับมาให้อยู่ในรูปที่มนุษย์ สามารถที่จะเข้าใจได้ ในระหว่างการส่งอาจจะมีอุปสรรค์ที่เกิดขึ้นก็คือ สิ่งรบกวน (Noise) จากภายนอกทำให้ข้อมูลบางส่วนเสียหายหรือผิดเพี้ยนไปได้ซึ่งระยะทางก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยเพราะถ้าระยะทางในการส่งยิ่งมากก็อาจจะทำให้เกิดสิ่งรบกวนได้มากเช่นกัน จึงต้องมีหาวิธีลดสิ่งรบกวนเหล่านี้ โดยการพัฒนาตัวกลางในการสื่อสารที่จะทำให้เกิดการรบกวนน้อยที่สุด

24 กุมภาพันธ์ 2553

W0RKS

*ความหมายของการสื่อสารข้อมูล
*สรุป ความหมายของการสื่อสารข้อมูล
*ความหมายของคำว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์
*องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
*ความหมายของ protocal
*ความหมายของ topology
*lab cmd

ให้นักศึกษา
1. ไปอ่าน บทความจากวารสาร ทั้ง ปัจจุบัน และ ล่วงเวลา หัวเรื่อง เกี่ยวกับ การสื่อสารข้อมูลและเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์
ทั้งด้าน Hardware, Sofware การแนะนำผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ภายในสำนักวิทยบริการฯ แล้ว ทำการสรุปสาระที่ได้ บันทึกลงในสมุดของนักศึกษา ไม่น้อยกว่า ครึ่งหน้า กระดาษ โดยเขียนบรรณานุกรม (ของวารสาร) ให้ถูกต้อง แล้ว นำไปให้ พี่ กัญญารัตน์ (พี่หน่อย)เจ้าหน้าที่ สำนักวิทยบริการฯ ชั้น สอง ฝั่งวารสาร (ฝั่งที่ไปช่วยกันเคลื่อนชั้น หนังสือ) ประทับตรา
ให้ทำทุกวัน จันทร์ พุธ เสาร์ วันละ 1 บทความ
ใครมีตราประทับหน้อยกว่า 10 ครั้ง ไม่มีคะแนนให้ (5 คะแนน)
2. นำข้อที่ 1 ไปสร้าง บทความใน Blog ของตัวเอง แล้วชักชวนเพื่อน ๆ เข้าไปแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น 5 คะแนน

งานเพิ่่ม เติม
วันศุกร์ ตอนบ่ายให้ หา หัว RJ-45 มาด้วยนะครับ อย่างน้อย คนละ 1 หัว